เผยความรักอันยิ่งใหญ่ของ 5 แม่สุดแกร่งจากวรรณคดีไทย!

 

เผยความรักอันยิ่งใหญ่ของ 5 แม่สุดแกร่งจากวรรณคดีไทย!




  สวัสดีทุกคน^^ ใกล้จะเดือนสิงหาคมวนกลับมาอีกรอบเเล้ว เนื่องในโอกาสเป็นเดือนสำคัญนั่นคือ"เดือนของเเม่" ในปีนี้ขอนำเสนอบทความ เผยความรักอันยิ่งใหญ่ 5 ที่สุดของแม่ผู้อดทน 
 

1. นางขนิษฐา จากเรื่อง ปลาบู่ทอง 



คนเเรกที่ขอยกมาพูดถึงคือ นางขนิษฐา เพราะเเม่ปลาบู่ทองที่เรารู้จักกันก็คือเเม่ขนิษฐาที่ไปเกิดใหม่นั่นเองค่ะ เรื่องราวของนางขนิษฐาน่าสงสารมากๆ นางเป็นแม่ของเอื้อย ลูกสาวที่เกิดกับเศรษฐีทารก(อ่านว่า ทา-ระ-กะ) มีอาชีพหาปลา เเต่เศรษฐีเองก็มีภรรยาอีกคนคือนางขนิษฐี มีลูกสาวอีกสองคนคือ อ้าย และอี่

สาเหตุที่พี่หวานยกให้นางขนิษฐาเป็นเเม่ที่มีชีวิตลำบากมากที่สุดเพราะสิ่งที่นางต้องเผชิญไม่ใช่เหตุการณ์ธรรมดาเลยค่ะ เริ่มจากเหตุการณ์ต้นเรื่องที่ต้องออกไปช่วยเศรษฐีหาปลาเหมือนปกติ เเต่วันนั้นตั้งเเต่เช้ายังจับปลาไม่ได้สักตัวเศรษฐีก็อารมณ์ไม่ดี พอจับปลาบู่ได้ตัวหนึ่งนางขนิษฐาเกิดสงสารขอให้ปล่อยไป ตัวเศรษฐีที่กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ก็เลยพลั้งมือฆ่านางขนิษฐาด้วยไม้พายก่อนจะปล่อยให้นางตกน้ำไป ตนเองก็กลับบ้านปกติ พี่หวานคิดว่านั่นเป็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายมากเลยค่ะ โดยเฉพาะเมื่อกลับบ้านมาเเล้วเศรษฐียังทำตัวปกติพร้อมบอกว่านางขนิษฐาหนีตามผู้ชายไป เอื้อยก็นึกเสียใจเพราะจากนั้นเป็นต้นมานางขนิษฐีเเละลูกๆ ของเธอต่างใช้งานเอื้อยพร้อมกลั่นแกล้งสารพัดโดยที่เศรษฐีไม่สนใจใยดี วันหนึ่งเอื้อยนั่งร้องไห้อยู่ริมท่าน้ำได้เจอกับปลาบู่ทองจนได้รู้ว่านั่นคือนางขนิษฐาผู้เป็นเเม่ที่ตายไป ทั้งสองต่างเเลกเปลี่ยนความคิดถึงเเละความทุกข์ใจต่อกันอย่างมากมาย แต่ความยากลำบากในชีวิตนางขนิษฐายังไม่จบเท่านั้นค่ะ เมื่อพวกนางขนิษฐีจับได้ว่าปลาบู่ทองคือนางขนิษฐามาเกิดใหม่จึงจับไปทำต้มปลา เอื้อยนำเกล็ดไปฝังดินอธิษฐานให้เเม่เกิดเป็นต้นมะเขือเพื่อที่ตนจะได้ดูเเลเเม่ได้ เเต่แล้วก็ต้องโดนกำจัดอีกครั้ง คราวนี้เอื้อยจึงนำเมล็ดมะเขือไปอธิษฐานปลูกให้เป็นต้นโพธิ์เงิน โพธิ์ทองในป่าเพื่อจะได้ไม่มีใครมายุ่ง ท้าวพรหมทัตมาพบเข้าได้ความว่าคนที่จะดึงได้คือนางเอื้อยเท่านั้น เพราะนางเป็นผู้ปลูกต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทอง นี่เป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ทำให้ทั้งเอื้อยเเละเเม่ขนิษฐาได้เข้าไปอยู่ในวัง

ชีวิตของนางขนิษฐาจึงเป็นชีวิตที่อาภัพเเละต้องคอยอดทนกับเรื่องราวมากมายจนพี่หวานต้องนำมากล่าวถึง เพราะในเรื่องความเป็นเเม่นางก็ไม่เคยบกพร่อง ดูเเลปรนนิบัติทั้งเศรษฐีทารก เลี้ยงดูเอื้อย ดูแลเรื่องอาหาร ช่วยทำงานออกไปหาปลา ต่างจากนางขนิษฐีโดยสิ้นเชิง เมื่อนางต้องตายไปก็ยังวนเวียนมาใกล้ๆ เอื้อยด้วยความเป็นห่วงตามประสาคนเป็นเเม่ที่รักลูก คอยรับฟังเเละอยู่เคียงข้างเอื้อยเสมอเเม้จะไม่ได้อยู่ในร่างเดิมก็ตาม กว่าชีวิตนางขนิษฐาและเอื้อยจะจบลงอย่างมีความสุขก็เล่นเอาใจหายใจคว่ำกันหลายตลบเลยค่ะ 


 

2. นางสวาหะ จากเรื่อง รามเกียรติ์



คนที่สองคือ นางสวาหะ ชีวิตของนางก็ลำบากไม่เเพ้กับนางขนิษฐาเลยค่ะ อาจจะไม่ต้องถึงกับตายเเล้วไปเกิดใหม่ เเต่ว่าก็ต้องมีเรื่องราวสาหัสให้เผชิญมากมายทีเดียวเพราะนางโดนสาปจากผู้เป็นแม่ของตนเอง หลายคนที่ไม่เคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์อาจจะไม่คุ้นชื่อนางสวาหะ พี่หวานขอเกริ่นก่อนว่านางคือเเม่ของหนุมาน ลิงเผือกคนเก่งทหารเอกพระรามนั่นเองค่ะ

นางสวาหะนั้นเป็นลูกของฤาษีโคดมกับนางกาลอัจนา ซึ่งมีเหตุการณ์ที่นางสวาหะได้ไปเห็นแม่ตนเองแอบมีความสัมพันธ์ลับๆ กับพระอินทร์และพระอาทิตย์(*ที่นางกาลอัจนาต้องมีความสัมพันธ์กับเทพต่างๆ เพื่อสร้างกำลังสำคัญไว้คอยช่วยเหลือพระรามได้มีทหารนั่นเองค่ะ) ปรากฏว่านางกาลอัจนาคลอดบุตรออกมาอีกสองคนเเละยังเป็นบุตรชายอีกด้วย ทำให้ฤาษีโคดมทั้งรักทั้งหลง วันหนึ่งที่ฤาษีจะพาลูกๆ ไปเล่นน้ำสองมือก็อุ้มเอาบุตรชายปล่อยให้นางสวาหะเดินตาม นางจึงบ่นออกมาด้วยความน้อยใจประมาณว่า ทีลูกตัวเองปล่อยให้เดินเเต่ไปอุ้มลูกคนอื่น ฤาษีได้ยินก็เอะใจซักไซ้ได้ความว่าบุตรชายทั้งสองไม่ใช่ลูกของตนแต่ก็ยังไม่เชื่อ จึงอธิษฐานว่าถ้าลูกคนไหนเป็นลูกของตนให้ว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่งมาและกลายเป็นคนถ้าไม่ใช่ก็ขอให้เป็นลิง ปรากฏมีนางสวาหะคนเดียวที่ยังเป็นคนว่ายกลับมา ฤาษีโกรธมากจึงสาปนางกาลอัจนาให้เป็นแผ่นหินเเต่ก่อนนางจะถูกสาปก็ได้มาสาปนางสวาหะต่อด้วยความโกรธเเค้น ให้นางสวาหะไปยืนตีนเดียวเหนี่ยวกินลมที่หน้าผา จนพระอินทร์ได้สั่งให้พระพายนำอาวุธพัดเข้าปากนางสวาหะเป็นที่มาของการให้กำเนิดหนุมานอย่างที่ทราบต่อมา

ชีวิตของนางสวาหะลำบากตั้งเเต่เป็นเด็กเลยนะคะ เพียงเพราะการพูดความจริงของนางนั่นเองทำให้โดนเเม่แท้ๆ สาปเข้าให้ กว่าหนุมานจะคลอดออกมาก็ใช้เวลานานพอสมควรทำให้นางต้องยืนอุ้มท้องขาเดียวอยู่บนหน้าผานั้นอย่างโดดเดี่ยว ปกติต้องอุ้มท้อง 12 เดือนก็ว่าลำบากแล้วนี่นางสวาหะต้องยืนอยู่บนหน้าผาด้วยขาข้างเดียวอุ้มท้องหนุมานนานถึง 30 เดือน!! แล้วตอนคลอดยังออกมาทางปากด้วยนะคะ ต้องนับถือใจของนางจริงๆ ค่ะ เรียกว่าเป็นเเม่ในวรรณคดีไทยอีกเรื่องที่ต้องอดทนกับความทุกข์มามากทีเดียว


3. นางเภา จากเรื่อง นางสิบสอง



เรื่องของ นางเภา เป็นอีกเรื่องที่พี่หวานอ่านเเล้วรู้สึกหดหู่เสมอ อย่างที่น้องๆ พอจะรู้เรื่องราวนางสิบสองมาแล้วว่าพวกนางถูกนางยักษ์สัตราที่มาทำเสน่ห์ใส่ท้าวรถสิทธิ์สั่งให้ควักลูกตาและนำไปปล่อยในป่า แต่นางเภาที่เป็นน้องคนสุดท้องโชคดีถูกควักไปแค่ข้างเดียว

ชีวิตของพี่น้องทั้งสิบสองคนลำบากมาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อแม่ยากจนเลี้ยงไม่ไหว จนตอนนี้แม้จะเคยเป็นมเหสีของท้าวรถสิทธิ์ก็ยังโดนขับไล่ออกจากเมืองทำให้ต้องอาศัยในถ้ำอย่างยากลำบาก เมื่อพี่น้องคนอื่นคลอดลูกออกมาก็ต้องนำลูกมาเป็นอาหารเพราะไม่มีทางหาอย่างอื่นมากิน นางเภาไม่ต้องการฆ่าลูกของตนเองเพื่อประทังชีวิตเพราะจิตใจของคนเป็นเเม่จะกินลูกตัวเองลงได้ยังไง จึงยอมลำบากออกไปหาอย่างอื่นมาให้พี่น้องกิน นางตั้งชื่อให้ลูกชายว่ารถเสน เมื่อพระรถเสนโตขึ้นก็คอยช่วยเหลือแม่และพี่น้องคนที่เหลือด้วยความกตัญญู คอยหาอาหารและออกไปหาเงินมาเลี้ยงดูจนความเป็นอยู่ของทุกคนค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ สำหรับพี่หวานนั้นมองว่านางเภาเป็นแม่ที่ต้องต่อสู้กับความกดดันทั้งในใจตนเองและความกดดันจากพี่น้องคนอื่นด้วย สังเกตจากที่พี่น้องคนอื่นนั้นเมื่อคลอดลูกแล้วนำลูกมาเป็นอาหารเพื่อประทังชีวิตด้วยไม่มีทางเลือกอื่น และถ้านางเภาไม่ยอมเเบ่งลูกตนเองให้พี่น้องคนอื่นกินทุกคนจะมีชีวิตรอดไปได้อย่างไร สุดท้ายนางก็เลือกจะรักษาลูกเอาไว้เเละเลี้ยงดูมาด้วยความรัก ซึ่งต่อมาภายหลังพระรถเสนนั่นเองที่เป็นคนมาช่วยเหลือให้นางสิบสองได้ออกจากถ้ำและมีชีวิตที่ดีดังเดิม 

 

4. นางมัทรี จากเรื่อง พระเวสสันดร



(รูปภาพจาก : https://sites.google.com/a/htp.ac.th/mha-wessandr-chadk-kanth-math-ri/8-1-khun-kha-dan-neu-ha)

มาถึงคนที่สี่ระดับความอดทนที่ต้องเผชิญก็จะลดหลั่นลงมาเรื่อยๆ ถึงคราวของ นางมัทรี ผู้เป็นเเม่ที่มีบทบาทคนหนึ่งในวงการวรรณคดีไทย เพราะนางมัทรีเองก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากซึ่งต้องผ่านไปให้ได้เช่นกัน

เรื่องราวกัณฑ์มัทรีเริ่มต้นหลังจากที่พระเวสสันดรได้บริจาคทานโดยการมอบช้างคู่บ้านคู่เมืองให้แก่เมืองกลิงคราชเพื่อช่วยเหลือเรื่องความแห้งแล้ง แต่ชาวเมืองกลับไม่พอใจอยากให้ขับไล่พระเวสสันดรออกไป ท้าวสญชัยนั้นร้อนใจแตกต่างจากพระเวสสันดรที่ตัดสินใจว่าจะถือโอกาสออกจากเมือง เข้าป่าเพื่อบำเพ็ญเพียร นางมัทรีและโอรสธิดาคือชาลีและกัณหาได้ติดตามไปด้วย เรื่องราวของพระเวสสันดรถือเป็นอีกหนึ่งชาติที่สำคัญที่สุด และถูกกล่าวถึงมากที่สุดของพระพุทธเจ้า เพราะแก่นหลักของเรื่องคือเรื่องการบำเพ็ญทานบารมีอย่างสูงสุดนั่นคือการทานบุตร ภรรยา บริวาร ตลอดจนชีวิตของตนเอง พี่หวานจึงขอยกความทุกข์ยากของนางมัทรีในฐานะ เเม่ของลูกพระเวสสันดร มาพูดถึงในวันนี้เพราะว่านางมัทรีนั้นก็เป็นภรรยา มีสิทธิ์ถูกให้ทานเมื่อไหร่ก็ได้แต่โชคดีที่พระอินทร์มาขอนางไว้ก่อนเพื่อคืนให้นางได้อยู่ปรนนิบัติพระเวสสันดรต่อไป เเต่กรณีของชาลีและกัณหานั้นต่างออกไปค่ะ แม้ว่านางมัทรีจะเป็นเเม่ของชาลีกับกัณหาเเต่ก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างที่รู้กันดีว่าชูชกเป็นคนมาขอเพื่อนำบุตรของพระเวสสันดรทั้งสองไปเป็นเด็กรับใช้ที่บ้าน พระเวสสันดรนั้นรับรู้การมาถึงของชูชกแม้ว่าจะไม่พอใจที่เห็นชูชกเฆี่ยนตีโอรสธิดาของตนเเต่ด้วยเคยตั้งใจไว้เเล้วจึงต้องยกให้ไป

ฝ่ายนางมัทรีเมื่อออกไปเก็บผลไม้ในป่าเช่นเคยแต่กลับรู้สึกได้ถึงเหตุการณ์เป็นลางเเปลกๆ เช่นกันค่ะ กลับมาถึงกระท่อมก็มืดค่ำได้รู้ว่าลูกถูกยกเป็นทานให้ชูชกไปแล้วนางจึงหมดสติไป พระเวสสันดรต้องใช้เวลาอยู่นานเพื่อดูเเล เมื่อฟื้นขึ้นอีกครั้งนางจึงค่อยๆ ทำความเข้าใจเเละยอมรับได้ในที่สุด ถ้าเป็นพี่หวานก็คงรู้สึกเหมือนโลกพังทลายลงตรงหน้าเลยล่ะค่ะ ลูกเราทั้งคน(นี่สองคนด้วย)ต้องไปตระกำลำบากที่อื่นกับใครก็ไม่รู้ ยิ่งถ้านางมัทรีกลับมาทันเหตุการณ์ตอนชูชกล่ามเชือกชาลีกับกัณหาและเฆี่ยนไปด้วยตลอดทาง นางจะต้องไม่อยู่เฉยเเน่ค่ะ แต่ถึงจะเสียใจเเค่ไหนเมื่อเป็นการตัดสินใจของพระเวสสันดรนางมัทรีก็ยอมรับได้โดยดี พี่หวานจึงคิดว่านางเป็นเเม่ที่รักลูกมาก เเต่ก็ต้องอดต่อสู้กับความเจ็บปวดในใจของตนเองอย่างมากคนหนึ่งเลยค่ะ

 


5. นางจันท์เทวี จากเรื่อง สังข์ทอง



(รูปภาพจาก : http://oknation.nationtv.tv/blog/g-peck/2012/11/18/entry-1/comment)

แม่คนสุดท้ายสำหรับวันนี้ขอเสนอเรื่องราวเเม่ของพระสังข์ก็คือ นางจันท์เทวีค่ะ อย่างที่รู้กันดีว่านางจันท์เทวีกับพระสังข์โดนเนรเทศออกมาตั้งเเต่ตอนที่พระสังข์เเรกเกิด หลังจากโดนใส่ร้ายว่าโอรสหอยสังข์ที่นางคลอดลูกออกมาเป็นกาลกิณีบ้านเมือง นางจันท์เทวีเเละลูกก็ระหกระเหินไปขอพึ่งตายายที่กระท่อมปลายนา ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก จนวันหนึ่งที่นางรู้สึกถึงเหตุการณ์ประหลาด เช่น มีคนออกมาช่วยกวาดบ้าน หรือหุงหาอาหารไว้รอ เป็นต้น เมื่อนางจันท์เทวีแอบดูอยู่จึงรู้ว่าในหอยสังข์มีเด็กชายน่ารักอาศัยอยู่และคอยออกมาช่วยนางทำงาน  วันหนึ่งนางจันท์เทวีจึงทุบหอยสังข์นั้นทิ้งหวังให้ลูกได้อยู่กับนางเเบบเด็กชายปกติทั่วไป 

พี่หวานคิดว่าคนเป็นเเม่ทุกคนก็คงรักอยากกอดอยากเลี้ยงดูลูกให้ดี บวกกับความเหงาที่ต้องออกมาอยู่ตัวคนเดียวนางจันท์เทวีคงไม่ได้ตั้งใจทุบหายสังข์ให้แตกแต่คงทำไปเพราะอยากให้ลูกออกมาอยู่กับตัวเองมากกว่าค่ะ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งความทุกข์ยากในชีวิตที่นางต้องเจอ เพราะถ้าท้าวยศวิมลเห็นว่านางจันท์เทวีคลอดพระโอรสจริงๆ ไม่ใช่หอยสังข์เเบบนี้คงไม่ต้องพากันออกมาลำบากข้างนอก แต่หลังจากนั้นใช่ว่าเหตุการณ์จะสงบสุขนะคะ เพราะนางจันทร์เทวียังต้องถูกพรากจากพระสังข์เพราะมีคนมาจับตัวไปถ่วงน้ำ ทำให้พระสังข์ต้องไปอยู่กับนางยักษ์พันธุรัตน์พักใหญ่ จนกระทั่งโตขึ้นได้ไปเป็นเจ้าเงาะถอดรูปและเเต่งงานกับนางรจนานั่นเองค่ะ ส่วนช่วงนั้นนางจันท์เทวีใช้ชีวิตไปด้วยความคิดถึงลูกในทุกวัน กว่าที่ท้าวยศวิมลจะออกมาตามหาก็ปล่อยให้นางจันท์เทวีต้องเดียวดายอยู่นานเลยค่ะ เพราะอย่างนี้ชีวิตของเเม่อย่างนางจันท์เทวีก็เลยเป็นอีกชีวิตที่พี่หวานคิดว่านางต้องอดทนกับเรื่องราวต่างๆ มากจริงๆ


เป็นยังไงบ้างกับชีวิตเหล่าเเม่สุดแกร่งในวรรณคดีไทยที่พี่หวานคัดมาฝาก เเต่ละคนผ่านความทรหดมาไม่ต่างกันเลยจริงๆ ทำให้ได้รู้ว่าชีวิตเส้นทางในฐานะ เเม่ ไม่ง่ายเลย เเต่สิ่งหนึ่งที่ทุกตัวละครมีเหมือนกันคือความรักของเเม่ค่ะ จะเห็นว่าต่อให้ตัวเองลำบากเเค่ไหนยังไงก็รักลูกที่สุด อย่าลืมรักคุณเเม่ให้มากๆ ไม่ใช่เเค่ในวันเเม่เท่านั้นนะครับ





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องย่อ ลิลิตพระลอ

5 อันดับนางในวรรณคดีไทย ที่น่าสงสารที่สุด